จันทบุรี 9 ธ.ค. – หนุ่มโดนลูกหลงสะเก็ดกระสุนปืนตำรวจจราจรจันทบุรีขณะยิงสกัดคนร้ายคดียาเสพติด เผยเงินเยียวยาไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายและรายได้ที่เสียไป
จากเหตุการณ์ตำรวจจราจร สภ.เมืองจันทบุรี สกัดจับนายธงชัย คนร้ายคดียาเสพติด ที่พยายามขับรถกระบะหลบหนี ก่อนยิงล้อสกัด บริเวณถนนอัมพวา ปากซอยอัมพวา 5 ตำบลตลาด อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี เมื่อช่วงค่ำวันที่ 7 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยมีชาวบ้านคือ นายวินัย อายุ 27 ปี ถูกลูกหลงสะเก็ดกระสุนที่ข้อเท้าบาดเจ็บ ซึ่งตำรวจแจ้งว่ารับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด พร้อมมอบเงินชดเชยรายได้ระหว่างพักรักษาตัว จนกว่าาดแผลจะหายเป็นปกติ และพูดคุยทำความเข้าใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
วันนี้ผู้สื่อข่าวประสานศูนย์ควบคุมกล้องวงจรปิดเทศบาลเมืองจันทบุรี เพื่อขอตรวจสอบภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พบว่าตำรวจจราจรได้เรียกตรวจค้นรถกระบะของนายธงชัยที่ออกมาจากชุมชนเนิน FM ตำบลตลาด อำเภอเมืองจันทบุรี ตรวจค้นในรถพบอุปกรณ์เสพยาเสพติด ขณะจะนำตัวมาตรวจสารเสพติด นายธงชัยรีบปิดประตูรถ ขับหนี ใช้เส้นทางเข้ามาในตลาดเทศบาล เข้ามาทางตลาดโบว์ลิ่ง ก่อนเลี้ยวขวาเข้าถนนอัมพวา ซึ่งเป็นตลาดใจกลางเมือง และมีประชาชนพลุกพล่าน ซึ่งตำรวจตามมาทันก็ใช้อาวุธปืนยิงล้อสกัด จากนั้นจึงเปิดประตูรถเข้าจับกุมตัว
ขณะที่นายวินัย ชาวบ้านที่ถูกลูกหลง ออกจากโรงพยาบาลมาพักรักษาตัวที่บ้านเช่าในตำบลตลาด อยู่กับภรรยา และลูกสาวฝาแฝดวัย 2 ขวบ 1 เดือน นายวินัยบอกว่าวันเกิดเหตุขี่รถจักรยานยนต์ไปซื้อของมาเตรียมทำขนมข้าวเกรียบปากหม้อขาย เมื่อถึงที่เกิดเหตุพบตำรวจกำลังไล่ล่ารถกระบะคันหนึ่ง พร้อมกับได้ยินเสียงปืนครั้งแรก 2 นัด และขณะขี่รถสวนกับรถกระบะ มีเสียงปืนดังขึ้นอีก 2 นัด รู้สึกชาที่เท้า เมื่อจอดรถลงมาดูพบว่าถูกกระสุนปืนเจาะเข้าที่ข้อเท้าซ้าย และมีคนที่อยู่ในเหตุการณ์ตะโกนบอกเจ้าหน้าที่ว่ามีคนถูกลูกหลงบาดเจ็บ จนเจ้าหน้าที่กู้ภัยมาช่วยนำตัวส่งโรงพยาบาล
ส่วนอาการบาดเจ็บ แพทย์ผ่าเศษกระสุนออกมาได้บางส่วน แต่ที่เหลือยังหาไม่พบ เบื้องต้นยังไม่สามารถเย็บแผลได้ เนื่องจากต้องเปิดปากแผลไว้ เพื่อให้ยาฆ่าเชื้อ คาดว่าจะใช้เวลารักษาประมาณ 1 เดือน ทำให้ครอบครัวเดือดร้อน เนื่องจากเป็นเสาหลักของครอบครัว ปกติมีรายได้จากอาชีพขับรถให้กับผู้จัดการบริษัทเอกชน สัปดาห์ละ 4,000 บาท และรายได้จากการขายขนมข้าวเกรียบปากหม้อ ตามตลาดนัด วันละ 1,200 บาท ต้องขาดหายไป ภรรยาต้องเลี้ยงลูกสาวฝาแฝด 2 คน ไม่สามารถไปขายแทนได้ ทำให้ในระหว่างที่พักรักษาตัว ครอบครัวต้องแบกภาระค่าใช้จ่ายทั้งค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าเลี้ยงดูลูกฝาแฝด ตกแล้วไม่ต่ำกว่า 20,000 บาท ส่วนค่าทำขวัญเยียวยาที่ตำรวจโอนมาให้ไม่เพียงพอ และขณะนี้ยังไม่ได้นำเงินจำนวนดังกล่าวออกมาใช้
ขณะเดียวกันภรรยาและครอบครัวเคลือบแคลงใจต่อการปฏิบัติงานของตำรวจ ทั้งการใช้อาวุธปืนยิงรถคนร้ายกลางตลาด ซึ่งเป็นสถานที่มีคนพลุกพล่าน เป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด จนทำให้มีชาวบ้านได้รับบาดเจ็บ โดยเฉพาะการเยียวยาที่มีการรวบรัดเจรจาตกลงกับนายวินัย โดยที่ภรรยาและครอบครัวไม่มีใครรับรู้ ซึ่งครอบครัวกำลังปรึกษากันว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป.-สำนักข่าวไทย
ดูข่าวเพิ่มเติม