7 กรกฎาคม 2565 เวลา 13.30 น. นางปวีณา หงสกุล เดินทางไปที่ จังหวัดจันทบุรี เพื่อพาคุณแม่ 2 ราย ไปรับลูกชาย ป.6 กับ ม.1 ที่โรงเรียนประจำแห่งหนึ่งในพื้นที่ อำเภอเขาคิชฌกูฏ จันทบุรี หลังทราบว่า เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย ถูกรุ่นพี่ทำร้ายร่างกายแทบทุกคืน ซ้ำข่มขู่ถ้าฟ้องครู จะถูกซ้อมหนักกว่าเดิม ขณะทางแม่ยืนยันขอแจ้งความ ดำเนินคดีเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
สืบเนื่องจาก มูลนิธิปวีณา ได้รับเรื่องร้องทุกข์จากคุณแม่ 2 ราย กรณีลูกชาย ถูกรุ่นพี่ทำร้ายในโรงเรียนประจำแห่งในพื้นที่ อำเภอเขาคิชฌกูฏ จันทบุรี ทราบต่อมาคือโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 48
ซึ่งทางผู้ปกครองนักเรียนที่เสียหายรายแรก คือ นางใหม่ (นามสมมุติ) เผยว่า ด.ช.หมี (นามสมมุติ) ลูกชายวัย 9 ขวบ เรียนอยู่ชั้น ป.4 ถูกรุ่นพี่ ม.2 ทำร้ายร่างกายเป็นประจำนานเกือบ 2 เดือน โดยเคยถูกชกเข้าที่ท้องอย่างแรงจนตัวงอ นอนปวดท้องทั้งคืน ซึ่งถูกกระทำหลายครั้งจนทนไม่ไหว ยอมเสียเงิน 5 บาท ขอเช่าโทรศัพท์รุ่นพี่ติดต่อให้แม่มารับกลับบ้าน หลังทราบเรื่อง ได้ไปรับลูกออกจากโรงเรียน ตอนนี้ทุกคืน ลูกชาย ยังมีอาการหวาดผวา และร้องไห้ตลอด ทั้งนี้ไม่อยากได้คำขอโทษ แต่ต้องการจะแจ้งความดำเนินคดีเอาเรื่องให้ถึงที่สุด จึงขอให้ทาง มูลนิธิปวีณาฯ ช่วยเหลือ
โดย นางใหม่ ให้ลายละเอียดว่า เมื่อ วันที่ 17 พ.ค.65ได้พาลูกชายดินทางจาก จ.ชลบุรี ไปส่งเข้าโรงเรียนประจำในจันทบุรี โดยระหว่างที่เด็กอยู่โรงเรียน ผู้ปกครองจะต้องติดต่อผ่านครูเท่านั้น กระทั่งวันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมา ลูกชายยืมโทรศัพท์ของรุ่นพี่ โทรมาหาบอกให้แม่ส่งของกินมาให้ จากนั้นได้ยินเสียงลูกร้องไห้ จึงถามว่า “มีรุ่นพี่แกล้งหรือเปล่า” แต่ลูกชายไม่ตอบ จากนั้นก็มีเสียงรุ่นพี่จะโกนแทรกมาว่า “ไม่ได้แกล้ง” พอลูกชายเจอแบบนี้ยิ่งร้องไห้หนักกว่าเดิม และบอกว่าอยากกลับบ้าน
ต่อมาด้วยความเป็นห่วง จึงตัดสินใจเดินทางไปรับลูกทันที เมื่อเห็นสภาพลูก ก็พบว่าอยู่ในสภาพร่างกายผอมโซ มีรอยฟกช้ำตามตัวและใบหน้า ตอนนี้ลูกชายกลับมาอยู่บ้านแล้ว แต่กลางคืนก็ยังผวา ร้องไห้ตลอด ซึ่งทางผู้ปกครองของเด็กคู่กรณีได้โทรมาขอโทษ แต่ตนรับไม่ได้ และมีความประสงค์จะแจ้งความดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
ส่วนผู้ปกครองผู้เสียหายอีกราย ชื่อ นางเอ (นามสมมุติ) หลังทราบข่าวมีเด็กนักเรียนถูกรุ่นพี่ทำร้าย ได้ร้องทุกข์มาที่ มูลนิธิปวีณา เป็นรายที่ 2 แจ้งว่า ลูกชาย 2 คน เรียนอยู่ชั้น ป.6 และ ม.1 โรงเรียนเดียวกับที่เป็นข่าว โดยเพิ่งจะเข้าไปเรียนเมื่อเดือน พ.ค. ถูกรุ่นพี่กระทำในลักษณะเดียวกันด้วย โดยให้ข้อมูลว่าเมื่อ 2 อาทิตย์ก่อน ได้เอาขนมไปให้ลูกที่โรงเรียน เจอแต่ลูกคนเล็ก ส่วนคนโตไปทำกิจกรรม โดยลูกคนเล็กอยู่ในสภาพผอม และดูโทรมมาก โดยลูกบอกว่า แม่ไม่ต้องเอาขนมมาเยอะ เพราะจะถูกแย่งไปหมดไม่ได้กิน จากนั้นก็ร้องไห้ เมื่อถามว่ามีอะไร ลูกจึงยอมเปิดปากว่าถูกรังแก และเจ็บจนจะทนไม่ไหวแล้ว และยังบอกอีกว่าพี่ชายก็โดนกระทำด้วยเหมือนกัน
นอกจากนี้ยังเชื่อว่า ยังมีเด็กที่ถูกรุ่นพี่ทำร้ายอีกหลายคน แต่ไม่กล้าบอกใคร ที่ตนออกมาร้องขอความเป็นธรรม เพราะอยากให้มีการตรวจสอบเรื่องนี้ จะได้ไม่ต้องมีเด็กถูกกระทำอีก และถ้ารู้ตัวรุ่นพี่ที่กระทำ ก็ต้องการจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด จึงได้ติดต่อขอให้ทางมูลนิธิปวีณาช่วยเหลือด้วย
ขณะที่ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้ประสาน นายธีร์ ภวังคนันท์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ ตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้น และหากคุณแม่ทั้ง 2 ราย มีความประสงค์จะแจ้งความดำเนินคดี ก็จะพาไปดำเนินการตามความประสงค์ โดยเรื่องที่เกิดขึ้น ต้องเป็นไปตามขั้นตอนการตรวจสอบ และเพื่อวางแนวทางแก้ไขป้องกันเหตุในโรงเรียน โดยมูลนิธิปวีณาฯ จะร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการดำเนินการติดตามเรื่องให้ได้รับความเป็นธรรมที่สุด เนื่องจากโรงเรียนเปรียบเหมือนบ้านหลังที่ 2 ซึ่งเด็กๆ ควรจะได้รับความปลอดภัยทุกคน
จากนั้น นางปวีณา ได้พาพ่อผู้ปกครองและเด็กนักเรียนผู้เสียหายเดินทางไปที่สถานีตำรวจภูธรเขาคิชฌกูฏ เพื่อเข้าพบกับ พันตำรวจเอกภาคภูมิ นาคพนม ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเขาคิชฌกูฏ พร้อมแจ้งความประสงค์จะแจ้งความดำเนินคดี โดยมี
พันตำรวจโทพินิจ แก้วสีทอง พนักงานสอบสวน เป็นผู้ดำเนินการสอบสวนและรับแจ้งความในเบื้องต้น
ต่อมา นางปวีณา พร้อมด้วย ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเขาคิชฌกูฏ ได้พาผู้ปกครองนักเรียนผู้เสียหาย ทั้ง 2 ราย เดินทางมารับตัวลูกชาย 2 คน ที่เรียนอยู่ชั้น ป.6 และ ม.1 ที่โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 48 พร้อมประชุมร่วมรับฟังข้อเท็จจริงและความคืบหน้าผลการสอบสวนของคณะกรรมการสอบสวนของโรงเรียนฯ โดยมีหัวหน้าสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาจันทบุรี, สำนักงานพัฒนาสังคมจันทบุรีตลอดจน นายสมชาย บ้านไร่ ผู้อำนวยการโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 48 ตลอดจนบุคลากรครูผู้สอน และ ครูประจำหอ เข้าร่วมชี้แจงข้อเท็จจริงในครั้งนี้ด้วย