รวบยกแก๊ง! จับ 3 ผู้ต้องหา ปลอมเฟซขายล้อแม็ก ลวงเหยื่อโอนเงินสูญหลายแสน เผยทำทีไม่ได้สลิปการโอน หลอกให้เหยื่อโอนซ้ำ สูญกว่า 4 แสน
เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เมื่อวันที่ 8 ก.พ. ที่กองกำกับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) เมืองทองธานี น.ส.ประภาศรี หรั่งกรุ่น อายุ 37 ปี ชาวอ.สอยดาว จ.จันทบุรี พร้อมครอบครัว เดินทางมาขอบคุณเจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) โดยมี พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.)
พล.ต.ต.มณเทียร พันธ์อิ่ม รอง ผบก.สอท. พล.ต.ต.ชรินทร์ โกพัฒน์ตา ผบก.สอท.5 พ.ต.อ.ทิฆัมพร ศรีสังข์ รอง ผบก.สอท.5 พ.ต.อ.ขวัญชาติ วงศ์ขจรไพบูลย์ ผกก.1 บก.สอท.5 พ.ต.ท.ประเสริฐ หวังบุญสร้าง รอง ผกก.1 บก.สอท.5 พ.ต.ท.อาทิตย์ ชาตินักรบ สว.กก.1 บก.สอท.5 จับกุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับ 6 หมาย ข้อหาฉ้อโกง ข้อหาฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นผู้อื่น ข้อหาฉ้อโกงทรัพย์
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 25 ม.ค.64 เวลาประมาณ 23.30 น. พ.ต.ท.ประเสริฐ ได้รับแจ้งจาก น.ส.ประภาศรี สั่งซื้อล้อแม็กรถยนต์จากเฟซบุ๊กรายหนึ่ง ในราคา 11,500 บาท ต่อมาเมื่อโอนเงินไปแล้วที่บัญชี ธนาคาร ธกส. ชื่อบัญชี น.ส.จุรีพร ดวงชาติ สาขากระสังบุรีรัมย์ แล้วส่งสลิปโอนเงินให้ดู ทางเฟซบุ๊กดังกล่าวแจ้งกลับมาว่า ในสลิปโอนเงินนั้นไม่ได้ลงรายละเอียดว่า เป็นเงินค่าล้อแม็ก
จึงให้ผู้เสียหายโอนซ้ำไปอีก 11,500 บาท แล้วถึงจะคืนเงินก้อนแรกกลับมาให้ เมื่อผู้เสียหายโอนไปแล้วทางร้านแจ้งว่าจะโอนเงินคืนให้ โดยจะโทรบอกขั้นตอนการโอน ซึ่งผู้เสียหายถูกหลอกโอนเงินไปอีกครั้งเป็นเงิน 335,155 บาท เมื่อโอนเสร็จแล้วผู้เสียหายจึงรู้ว่าถูกหลอก ได้รับความเสียหาย รวมทั้งสิ้น 358,155 บาท จึงไปแจ้งความดำเนินคดีไว้ที่ สภ.สอยดาว จ.จันทบุรี
พ.ต.อ.ขวัญชาติ กล่าวว่า จากการสืบสวนทราบว่าผู้ต้องหาได้โอนเงินจากธนาคารบัญชีธกส.ไปยังธนาคารบัญชีธ.อิสลาม สาขาเมืองบุรีรัมย์ จึงประสานงานกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองบุรีรัมย์ และ เจ้าหน้าที่ตำรวจบก.สส.ภ.3 โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน รวบรวมข้อมูลติดตามจับกุมผู้ต้องหา
จนกระทั่งวันนี้ 27 ม.ค.64 เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวน.ส.จุรีพร ดวงชาติ ได้ที่บริเวณโรงพยาบาลบุรีรัมย์ แล้วนำส่งสภ.เมืองบุรีรัมย์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมขยายผลถึงผู้ร่วมขบวนการอีก 2 คน คือ นายวันเฉลิม พวงแก้ว และ น.ส.พัชรา ปิวะพงษ์ ในเวลาต่อมา ผู้ต้องหาทั้ง 3 คนรับสารภาพว่าได้ร่วมกันปลอมชื่อเฟซบุ๊กและไปหลอกลวงเงินผู้เสียหายจริง
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้สืบสวนติดตามไปตรวจยึดเงินสด ซึ่งผู้ต้องหายืนยันว่าเป็นเงินที่ได้มาจากการถอนเงินจากธนาคารอิสลาม สาขาเมืองบุรีรัมย์ จำนวน 400,000 บาท จึงตรวจยึดเงินดังกล่าวไว้แล้วนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อไป