ศบค. เคาะล็อกดาวน์ 10 จังหวัด ปิดห้าง ห้ามออกจากบ้าน 3 ทุ่ม – ตี 4 เริ่ม 12 ก.ค. นี้

พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. เปิดเผยว่า ในที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 มีมติกำหนดมาตาการป้องกันการแพร่ระบาด โดยจำกัดการเคลื่อนย้ายและการรวมกลุ่มของบุคคลขั้นสูงสุด รวมทั้งกำหนดเวลาการออกนอกเคหสถาน ควบคู่ไปกับการเร่งรัดมาตรการป้องกันการฉีดวัคซีน  การควบคุมโรค การรักษาพยาบาล รวมทั้งการเยียวยา

โดยที่ประชุม ศบค. เห็นชอบให้ปรับระดับพื้นที่สถานการณ์ทั่วราชอาณาจักร เริ่มใช้ 12 ก.ค. 64 ดังนี้ 

พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 10 จังหวัดดังเดิม ได้แก่ กทม. นครปฐม นราธิวาส นนทบุรี ปทุมธานี ปัตตานี ยะลา สมุทรปราการ สมุทรสาคร สงขลา 

พื้นที่ควบคุมสูงสุด 24 จังหวัด ได้แก่ กระบี่ กาญจนบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ชัยนาท ตาก นครนายก นครราชสีมา นครศรีธรรมราช นครสวรรค์ ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี พระนครศรีอยุธยา เพชรบุรี ระนอง ราชบุรี ลพบุรี สมุทรสงคราม สระบุรี สิงห์บุรี สุพรรณบุรี อ่างทอง อุทัยธานี 

พื้นที่ควบคุม 25 จังหวัด ได้แก่ กาฬสินธุ์ กำแพงเพชร ขอนแก่น จันทบุรี ชัยภูมิ ชุมพร ตรัง ตราด บุรีรัมย์ พัทลุง พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด เลย ศรีสะเกษ สตูล สระแก้ว สุโขทัย สุราษฏร์ธานี สุรินทร์ หนองบัวลำภู อุดรธานี อุบลราชธานี

พื้นที่เฝ้าระวังสูง 18 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ นครพนม น่าน บึงกาฬ พะเยา แพร่ ภูเก็ต มุกดาหาร แม่ฮ่องสอน ยโสธร ลำปาง ลำพูน สกลนคร หนองคาย อำนาจเจริญ อุตรดิตถ์ 

โดนมีข้อปฏิบัติในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดดังนี้ 

1 จำกัดการเคลื่อนย้ายและการดำเนินกิจกรรมของบุคคลให้มากที่สุด (เฉพาะกรุงเทพฯ และปริมณฑล) 

-กำหนดให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชนใช้ปฏิบัติงาน Work From Home ให้มากที่สุด

– ระบบขนส่งสาธาณะ เปิดให้บริการตั้งแต่ 03.00 น. – 21.00 น. 

-ร้านสะดวกซื้อ ตลาดโต้งรุ่ง เปิดได้ตั้งแต่เวลา 04.00 น. –  20.00 น. 

-ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอล์ เปิดได้เฉพาะซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านอาหารและเครื่องดื่ม ธนาคารและสถาบันการเงิน ร้านขายยาและเวชภัณฑ์ ร้านอุปกรณ์เครื่องมีสื่อสาร รวมถึงสถานที่ฉีดวัคซีน เปิดได้ถึงเวลา 20.00 น. 

-ร้านจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม ห้ามบริโภคอาหารหรือสุราหรือเครื่องดื่มในร้าน โดยเปิดได้ถึงเวลา 20.00 น.

-ปิดสถานที่เสี่ยงต่อการติดโรค ได้แก่ นวดเพื่อสุขภาพ สปา สถานเสริมความงาม

-สวนสาธารณะ สามารถเปิดให้บริการสำหรับออกกำลังกายได้ถึงเวลา 20.00 น. 

– ห้ามการรวมกลุ่มทำกิจกรรมทางสัมคม ที่ไม่ใช่การปฏิบัติหน้าที่ การประกอบอาชีพ กิจกรรททางศาสนาหรือกิจกรรมตามประเพณี ที่มีการรวมตัวกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป 

2. ห้ามการเดินทางที่ไม่จำเป็น และห้ามออกนอกเคหสถานระหว่างเวลา 21.00 น. – 04.00 น. เว้นแต่มีความจำเป็น หรือได้รับอนุญาต

3.การควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดในกลุ่มแรงงานก่อสร้าง ยังคงเป็นไปตามข้อกำหนดของ ศบค. ที่ได้ประกาศไปแล้วก่อนหน้านี้ 

4. กำกับดูแลให้ประชาชนปฏิบัติมาตรการป้องกันส่วนบุคคล อย่างสูงสุด

5. ให้เริ่มดำเนินการตามข้อกำหนด 1- 4 ตั้งแต่วันที่ 12 ก.ค. เป็นต้นไป 

6. ให้หน่วยงานความมั่นคงตั้งจุดตรวจจุดสกัดและชุดลาดตระเวน ปฏิบัติอย่างเข็มงวด โดยให้เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 10 ก.ค. 64 เวลา 06.00 น. เป็นต้นไป หากพบผู้ใดฝ่าฝืนให้บังคับใช้บทลงโทษตาม พ.ร.ก. ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 และ พ.ร.บ. โรคติดต่อ พ.ศ. 2558

ติดตามข่าวสารอัพเดททันใจจาก Businesstoday ได้โดยกรอกอีเมลด้านล่าง