ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 ทำให้ขณะนี้การจัดเก็บภาษีขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หลายจังหวัดภาคเหนือลดลงมากถึงร้อยละ 90 ซึ่งจะส่งผลกระทบกับการบริหารงาน โดยเฉพาะการกำจัดขยะที่ใช้งบประมาณค่อนข้างสูง
วันนี้ (10 มิ.ย.2564) พ่อค้าแม่ค้าในตลาด เขต อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ยังคงใช้ถุงพลาสติกในการใส่สินค้าให้ลูกค้า ซึ่งทีมข่าวไทยพีบีเอสได้ทดสอบซื้อลูกชิ้นปิ้งที่แม่ค้าขายข้างถนน พบว่าผู้ขายใช้ถุงพลาสติกถึง 3 ชิ้น ประกอบด้วยถุงใส่ลูกชิ้น ถุงใส่น้ำจิ้ม และถุงหิ้ว
และนี่เป็นอีกหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ปริมาณขยะในเทศบาลนครเชียงใหม่มีมากถึงวันละ 300 ตัน ซึ่งการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 ทำให้เทศบาลนครเชียงใหม่ จัดเก็บภาษีที่ดินและภาษีโรงเรือนลดลงกว่าร้อยละ 90 ซึ่งอาจกระทบกับการบริหารจัดการขยะ
นายอัศนี บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ช่วงปกติมีปริมาณขยะประมาณ 300 ตันต่อวัน แต่หากเป็นช่วงเทศกาลท่องเที่ยวจะเพิ่มเป็นวันละ 330 ตัน
โดยเสียงบประมาณในการจัดเก็บและกำจัดปีละประมาณ 200 ล้านบาท และศึกษาแนวโน้มปริมาณขยะอีก 5 ปีข้างหน้า จะเพิ่มขึ้น จึงต้องวางแผนบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด
ส่วนที่ จ.น่าน ถือเป็นหนึ่งจังหวัดที่กำลังประสบปัญหาเรื่องขยะในชุมชนเมือง ซึ่งนายสุรพล เธียรสูตร นายกเทศมนตรีเมืองน่าน กล่าวว่า จ.น่าน มีปริมาณขยะวันละ 60 ตัน ใช้งบประมาณในการกำจัดปีละ 10 ล้านบาท
ล่าสุด บ่อขยะของเทศบาลฯ กำลังจะเต็ม ขณะนี้กำลังเร่งแก้ปัญหา รวมถึงรณรงค์ให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวตระหนักเรื่องการสร้างขยะ
นางเปรมฤดี ชามพูนท นายกเทศมนตรีนครพิษณุโลก กล่าวว่า ปัจจุบันเขตเทศบาลนครพิษณุโลก มีปริมาณขยะวันละ 80 ตัน โดยว่าจ้างเอกชนในการกำจัด
แม้รายได้จากการจัดเก็บภาษีจะลดลง แต่จะบริหารงบให้เกิดประโยชน์สูงสุด และขอความร่วมมือจากประชาชนให้ช่วยกันคัดแยกขยะตั้งแต่ต้นทาง เพื่อลดขยะล้นเมืองในอนาคต