วันนี้ (23 ก.ค.64) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณหน่วยสาธิตการเลี้ยงสัตว์น้ำภายในอ่าวคุ้งกระเบน ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลคลองขุด อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี ขณะเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเคลื่อนย้ายปลาฉลามหัวบาตร 3 ตัว น้ำหนักตัวละกว่า 100 กิโลกรัม อายุไม่ต่ำกว่า 10 ปี ซึ่งถูกเลี้ยงดูอนุบาลภายในหน่วยสาธิตการเลี้ยงสัตว์น้ำอ่างคุ้งกระเบน เนื่องจากจะเกิดปรากฏการณ์น้ำทะเลลงต่ำสุดในวันที่ 25 ก.ค. 2564 ที่จะถึงนี้ เจ้าหน้าที่จึงทำการเคลื่อนย้ายปลาฉลามดังกล่าว โดยทำอุโมงค์ตาข่าย จากนั้นใช้คนลงไปต้อนให้ปลาฉลามว่ายเข้าไปในอุโมงค์ตาข่าย เพื่อข้ามไปยังกระชังปลาที่อยู่ในน้ำที่ลึกกว่าจุดเดิม
แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นในระหว่างที่ทำการเคลื่อนย้าย เนื่องจากปลาฉลามตกก่อนจะกัดขาเจ้าหน้าที่เป็นแผลเหวอะ เลือดไหลเป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่จึงรีบนำตัวผู้บาดเจ็บขึ้นจากน้ำโดยเร็ว เพราะหากฉลามได้กลิ่นเลือดจะพากันเข้ามารุมเพื่อกัดเหยื่อ ตามสัญชาตญาณของฉลามที่กำลังล่าเหยื่อ โดยเจ้าหน้าที่ที่ถูกปลาฉลามหัวบาตรกัด ทราบชื่อคือนายบุญเติม สิงห์สุร อายุ 55 ปี ที่ของนายบุญเติมถูกกัดปลาฉลามกัดจนเนื้อหลุด มีรอยเขี้ยวที่ฝังไปในเนื้อหลายแห่ง เนื่องจากเวลาปลาฉลามกัดจะสะบัดกระชากเหยื่อจนเนื้อหลุดออกมา กางเกงขายาวที่นายบุญเติมใส่ขาดลุ่ยเหมือนรอยมีดบาด เจ้าหน้าที่ต้องเร่งปฐมพยาบาล และเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลท่าใหม่เพื่อทำการรักษาต่อไป
จากการสอบถามนายมนัส กองศรี อายุ 50 ปี เจ้าหน้าที่ที่อยู่ในเหตุการณ์ขณะช่วยกันผลักดันปลาฉลามหัวบาตร เล่าว่า ขณะเกิดเหตุ ระหว่างที่ตนกับนายบุญเติมและเจ้าหน้าที่อีก 1 คน กำลังผลักดันปลาฉลามให้เข้าไปในอุโมงค์ตาข่าย นายบุญเติมเกิดไปนั่งทับหัวของปลาฉลามหัวบาตร ทำให้ปลาฉลามตกใจกัดขาของนายบุญเติมอย่างแรง จากเหตุการณ์นี้ตนเองก็ไม่กล้าที่จะลงไปในบ่อปลาฉลามอีก
“ส่วนสาเหตุที่นายบุญเติมและพวกตนกล้าลงไปทำงานในบอปลาฉลาม เนื่องจากเมื่อวันก่อนน้ำลงแห้งปลาฉลามเกิดเกยตื้น พวกตนลงไปช่วยกันปั๊มหัวใจปลาฉลาม และนำท่อออกซิเจนเข้าไปใส่ปากปลาได้ จึงคิดว่าปลาฉลามคงจะคุ้นเคยกับพวกตนแต่ก็มาเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นได้” นายมนัส กล่าว