20 มกราคม 2566, 18:58น.
วันที่ 20 มกราคม 2566 เวลา 09.00 น. พลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุข องคมนตรี ประธานอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่ภาคกลาง และพลอากาศเอก จอม รุ่งสว่าง องคมนตรี รองประธานอนุกรรมการฯ พร้อมด้วยนางพิชญดา หัศภาค ที่ปรึกษาด้านการพัฒนา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการ กปร. และคณะ เดินทางไปติดตามการดำเนินงานโครงการไฟฟ้าพลังน้ำคิรีธาร ตำบลปัถวี อำเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี โอกาสนี้ผู้แทนกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน บรรยายสรุปการดำเนินโครงการไฟฟ้าพลังน้ำคิรีธาร และโครงการไฟฟ้าพลังน้ำคลองทุ่งเพล
โครงการไฟฟ้าพลังน้ำคิรีธารก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อปี 2529 ได้รับพระราชทานชื่อว่า “เขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำคิรีธาร” มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาแหล่งน้ำที่เหมาะสมให้เกิดประโยชน์ทางด้านการผลิตกระแสไฟฟ้า การเกษตร การป้องกันน้ำเค็ม และเป็นแหล่งน้ำจืดสำหรับการอุปโภคบริโภคในเขตเทศบาลเมืองจันทบุรี
สำหรับโครงการไฟฟ้าพลังน้ำคลองทุ่งเพล อำเภอคิชฌกูฏ และอำเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มีพระราชดำริเกี่ยวกับการนำน้ำจากห้วยสะตอมายังเขื่อนคิรีธาร และโครงการไฟฟ้าพลังน้ำคลองทุ่งเพล โดยทั้งสองโครงการอยู่ในความรับผิดชอบของกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน
จากนั้นรับฟังบรรยายสรุปการดำเนินงานโครงการพัฒนาแหล่งน้ำขนาดกลางอ่างเก็บน้ำห้วยสะตอ ตำบลหนองบอน อำเภอบ่อไร่ จังหวัดตราด ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2539 จากปัญหาภาวะภัยแล้งทำให้เกิดการขาดแคลนน้ำอย่างหนักทั่วทุกภาคของประเทศไทยในปี 2535 การพัฒนาโครงการเขื่อนห้วยสะตอ เป็นส่วนหนึ่งของแผนหลักการพัฒนาแหล่งน้ำโครงการพัฒนาลุ่มน้ำตราดของกรมชลประทาน เพื่อพัฒนาพื้นที่ชลประทานและเสริมปริมาณน้ำอุปโภคบริโภค ตลอดจนบรรเทาอุทกภัยในพื้นที่ท้ายน้ำ ปัจจุบันโครงการฯ อยู่ระหว่างการรังวัดแบ่งแยกแปลงกรรมสิทธิ์ซึ่งคาดจะดำเนินงานได้ครบถ้วนในปี 2566 ระยะเวลาดำเนินการก่อสร้าง ปี 2568-2571
จากนั้นคณะ เดินทางไปยังโรงไฟฟ้าพลังน้ำคิรีธาร เยี่ยมชมกระบวนการผลิตกระแสไฟฟ้าจากการนำน้ำเขื่อนคิรีธารมาผลิตเป็นกระแสไฟฟ้า ก่อนปล่อยสู่ลงแม่น้ำจันทบุรี และคลองเวฬุ เพื่อให้ประชาชนใช้ประโยชน์ต่อไป
สำหรับจังหวัดจันทบุรี มีโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ รวม 45 โครงการ มีโครงการพัฒนาด้านแหล่งน้ำ 24 โครงการ ซึ่งได้ช่วยแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำ บรรเทาปัญหาอุทกภัย รวมถึงการประกอบอาชีพเกษตรกรรมได้อย่างยั่งยืน