อาทิตย์ติดข่าว – ตัวเลขผู้ติดเชื้อในตลาดค้าพลอยที่จังหวัดจันทบุรี ยังพุ่งไม่หยุด ล่าสุดเพิ่มเป็น 88 คนแล้ว ซึ่งเจ้าหน้ที่เร่งนำตัวชาวแอฟริกัน ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงสูงกว่า 300 คนมาตรวจเชื้อ และกักตัว เพื่อหยุดการแพร่เชื้อ
หลังจากที่พบพ่อค้าพลอยในตลาดจันทบุรี ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวแอฟริกัน ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 52 คน และล่าสุดพบเพิ่มอีก 36 คน ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อจากคลัสเตอร์ตลาดค้าพลอยจันทบุรี เพิ่มเป็น 88 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ได้นำตัวทั้งหมดเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลแล้ว ซึ่งผู้ติดเชื้อคนหนึ่งบอกว่า ก่อนหน้านี้ได้เดินทางไปกรุงเทพมหานคร และไปละหมาดที่มัสยิดแห่งหนึ่ง แล้วกลับมาที่จังหวัดจันทบุรี ก็พบว่าติดเชื้อ จนกระจายไปติดคนอื่น
ขณะที่ทีมสอบสวนโรคสาธารณสุขจังหวัดจันทบุรี และเจ้าหน้าที่ตรวจคนเช้าเมือง ก็ยังคงเร่งค้นกลุ่มเสี่ยงสูง ซึ่งเป็นชาวแอฟริกัน ที่ทำธุรกิจค้าขายพลอยอีกเกือบ 300 คน อาศัยอยู่ในเขตอำเภอเมืองจันทบุรี เพื่อนำตัวมาตรวจเชื้อ และกักตัว 14 วัน เพื่อหยุดการแพร่กระจายเชื้อ โดยพบแล้ว 200 คน ที่เหลืออีกเกือบ 100 คนซึ่งอาศัยอยู่ตามหมู่บ้านต่าง ๆ ยังตามตัวไม่พบ นอกจากนี้ยังเร่งคัดกรองกลุ่มเสี่ยง
เจ้าหน้าที่บอกว่า จะเร่งเดินหน้าคัดกรองเชิงรุกในกลุ่มชาวแอฟริกัน ที่พักอาศัยในจังหวัดทั้งหมด รวมทั้งชาวจันทบุรี ที่ติดต่อค้าขายกับกลุ่มพ่อค้าพลอยชาวแอฟริกัน เพื่อเป็นการเร่งป้องกันและหยุดยั้งการแพร่ระบาด
เช่นเดียวกับที่จังหวัดสมุทรสาคร หลังจากที่ตรวจพบแรงงานชาวเมียนมา ในโรงงานแห่งหนึ่งในพื้นที่ตำบลท่าจีน อำเภอเมืองสมุทรสาคร ติดเชื้อ 39 คน จากคนงานทั้งหมด 69 คน ส่วนที่เหลืออีก 30 คน อยู่ระหว่างรอผลการตรวจเชื้อ และกักตัวภายในโรงงาน ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ของจังหวัดสมุทรสาคร วันนี้พุ่งสูงขึ้นอีก 95 คน
ขณะที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุข สั่งตรวจเชื้อบุคคลกลุ่มเสี่ยงตามชุมชน ที่อยู่ใกล้กับโรงงานแห่งนี้ ซึ่งมีอยู่ประมาณ 15,000 คน โดยจะให้เสร็จภายใน 1 สัปดาห์ เพื่อหยุดการแพร่เชื้อ ทางด้านนายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ได้มีคำสั่งปิดโรงงานแห่งนี้แล้วเพื่อบั๊บเบิ้ลแอนด์ซีลเป็นเวลา 14 วัน พร้อมทั้งสั่งให้ตรวจสอบขบวนการลักลอบค้าแรงงานเพื่อนบ้าน และรายงานผลภายใน 1 สัปดาห์ เช่นกัน
ส่วที่จังหวดประจวบคีรีขันธ์ เจ้ากหน้าที่สาธาณรสุข และฝ่ายปกครอง ช่วยกันค้นหาแรงงานชาวเมียนมา ที่อาศัยอยู่รอบ ๆ โรงงานสับปะรดกระป๋อง ซึ่งอยู่ริมถนนบายพาสชะอำ-ปราณบุรี หมู่ที่ 3 บ้านหนองนกน้อย ตำบลหินเหล็กไฟ อำเภอหัวหิน
ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงสูงเข้ารับการกักตัวในสถานที่ของโรงงานที่จัดไว้ หลังจากพบว่าคลัสเตอร์โรงงานสับปะรดแห่งนี้ มีผู้ติดเชื้อแล้วกว่า 115 คน และทำให้ชาวบ้านใยนพื้นที่กลัว ไม่มั่นใจในความปลอดภัย เพราะยังมีแรงงานชาวเมียนมา ออกจากห้องเช่า จึงหวั่นว่าเชื้อจะแพร่กระจายเป็นวงกว้างมากขึ้น