วันนี้ ( 7 ธ.ค.64 ) คลิปเหตุการณ์ปะทะคารมที่เห็นนี้ เป็นภาพเหตุการณ์ในขณะที่ เจ้าของร้านเสริมสวย ร้าน Fin skin (ฟิน สกิน) พร้อมกับเพื่อน ได้ไปตกลงเจรจาไกล่เกลี่ย เพื่อเรียกเก็บค่าบริการสักปากจากลูกค้าสาววัยรุ่น ที่ตกลงไปใช้บริการจากทางร้าน ในราคา 4,900 บาท แต่หลังสวยเสร็จ กลับมีพฤติกรรม ชักดาบ ไม่ยอมจ่ายเงินรีบขี่รถจยย.หนี อ้างว่าจะโอนเงินให้วันหลังจากนั้นก็ติดต่อไม่ได้อีก
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังร้านเสริมสวยดังกล่าว ซึ่งตั้งอยู่ภายในตลาดนัดเซนทริค แฟมิลี่ อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยได้พบกับ น.ส.ดามิสา เวชานนท์ อายุ 29 ปี เจ้าของร้าน ได้นำเอาคลิปหลักฐาน ในวันที่ลูกค้ามหาภัยเข้ามาใช้บริการ และคลิปที่ไปติดตามทวงเงิน มาให้ผู้สื่อข่าวตรวจสอบพร้อมกับเล่าเหตุการณ์ว่าเมื่อประมาณกลางเดือน พ.ย. 64 ที่ผ่านมา ได้มี น.ส.บี นามสมมุติ ( น.ส.จิราพร กองทอง ) อายุประมาณ 23 ปี ซึ่งอดีตเคยทำงานด้วยกันมาก่อน ได้ติดต่อซื้อบริการสักปากถาวร ผ่านเพจเฟซบุ๊กทางร้าน ซึ่งได้มีการตกลงพร้อมแจ้งราคาไว้ที่ 4,900 บาท โดยทางลูกค้ารับทราบดี พร้อมนัดวันที่จะมาใช้บริการ เนื่องจากทางร้านต้องจองคิวช่างสัก ซึ่งมีใบรับรองมาจาก จังหวัดระยอง
ต่อมาวันที่ 24 พ.ย.64 น.ส.บี ได้เดินทางมาที่ร้าน เพื่อรับบริการ หลังจากที่ช่างได้ทำการสักปากให้เสร็จ น.ส.บี ลูกค้า ได้ลุกเดินออกไปจากเตียง พร้อมกับหันมาบอกว่าเดี๋ยวจะโอนเงินมาให้ จากนั้นได้เปิดประตูรีบขี่รถออกไปจากร้าน โดยที่ตนเองยังวุ่นกับลูกค้าคนอื่นอยู่ หลังตั้งสติได้จึงได้โทรศัพท์ไปทวงถามค่าบริการ แต่ น.ส.บี กลับบอกว่า จะโอนให้วันถัดไป จากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อได้เลย
จนเมื่อวันที่ 25 พ.ย. 64 จึงได้เดินทางไปแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่ สภ.เมืองจันทบุรี ซึ่งทางตำรวจ ได้ให้แจ้งลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน พร้อมทั้งแนะนำให้ไปเจรจาไกล่เกลี่ยตกลงกับคู่กรณีแต่เมื่อตนเอง พร้อมกับเพื่อนเดินทางไปที่บ้านของ น.ส.บี ที่บ้าน ได้เอ่ยทวงถามค่าบริการกลับถูก น.ส.บี ลุกขึ้นมาจากเก้าอี้ ตรงจะเข้าทำร้าย พร้อมกับขู่ให้ไปแจ้งความดำเนินคดีได้เลย อ้างว่าเป็นคนบ้าตำรวจไม่จับ ตามที่ปรากฏในคลิป ขณะที่คนในบ้าน พยายามห้าม น.ส.บี ไว้พร้อมกับบอกว่า เคยมีพฤติกรรมไปก่อเหตุในลักษณะเดียวกัน กับร้านเสริมสวยอื่นๆ มาแล้วหลายครั้ง รวมแล้วเป็นเงินจำนวนมาก ซึ่งแม่ของ น.ส.บี ตามไปชดใช้ให้ตลอด
หลังจากนั้นจึงติดต่อไปทางแม่ของ น.ส.บี เพื่อที่จะตกลงค่าเสียหาย โดยทางแม่ น.ส.บี รับปากยินยอมจะชดใช้ให้ โดยผ่อนชำระ อาทิตย์ละ 300 บาท ซึ่งนับตั้งแต่วันนั้น ก็ไม่สามารถติดต่อได้อีก จึงได้นำคลิปมาร้องเรียนกับสื่อ เพื่อเป็นอุทาหรณ์เตือนภัยให้ร้านเสริมความงาม ระมัดระวังรอบครอบไว้ โดยแนะนำว่า หากมีลูกค้าซื้อคอร์สเสริมความงามในราคาสูง ควรที่จะตกลงทำความเข้าใจกับลูกค้าให้ดี และเรียกเก็บเงินค่ามัดจำไว้ก่อน 50 เปอร์เซนต์ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องตกเป็นเหยื่อ เหมือนกับที่ตนเองประสบอยู่